4 เหตุผล ควรอ่านเงื่อนไขสัญญาประกันชีวิตตั้งแต่ต้นจนจบก่อนเซ็นสัญญา

ฟรี คลังภาพถ่ายฟรี ของ faceless, กระดาษ, ข้างใน คลังภาพถ่าย

 

ทุกคนต่างรู้ดีว่า หากจะเซ็นสัญญาอะไรซักอย่าง ไม่ว่าจะสมัครงาน ซื้อขายบ้านรถยนต์ หรือแม้แต่การทำประกันชีวิต ก็จำเป็นต้องอ่านเงื่อนไขสัญญาให้ละเอียดก่อนเซ็นสัญญาทุกครั้ง แต่หลายคนมักพลาดไม่ยอมอ่านเงื่อนไขตั้งแต่ต้นจนจบก่อนเซ็นสัญญา โดยเฉพาะสัญญาประกันชีวิต บทความนี้เลยขอมาบอก 4 เหตุผล ทำไมคุณถึงจำเป็นต้องอ่านเงื่อนไขสัญญาประกันชีวิตตั้งแต่ต้นจนจบก่อนเซ็นสัญญา เพื่อมีให้เกิดปัญหาถึงลูกหลานในภายหลัง

ลดโอกาสเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ทั้งสองฝ่าย

หนึ่งในเหตุผลที่คุณควรอ่านเงื่อนไขสัญญาประกันชีวิตก่อนเซ็นสัญญาก็คือ ป้องกันการเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์กันทั้งสองฝ่าย เพราะถึงแม้ว่าบริษัทผู้ให้ประกันภัยจะไม่ได้เน้นในเรื่องเงื่อนไขของสัญญาเช่ากับสัญญาประกันสุขภาพ แต่บางสัญญาก็อาจมีการกำหนดให้แถลงข้อความในใบคำขอเอาประกันภัย ซึ่งเป็นสาระสำคัญในการพิจารณารับประกันชีวิต และระหว่างนี้ หากบริษัทผู้ให้ประกันภัยตรวจพบว่า เป็นข้อความเท็จก็อาจถูกบอกล้างสัญญาภายในสองปีนับแต่วันที่ทำสัญญาประกันภัยหรือต่ออายุสัญญาครั้งสุดท้ายได้ กว่าจะมั่นใจได้ว่า สัญญาเปลี่ยนจากโมฆียะเป็นสมบูรณ์ก็ต่อเมื่อพ้นระยะเวลาสองปีเรียบร้อยแล้ว แม้การบอกล้างจะทำให้ได้เบี้ยประกันคืน แต่คงไม่ดีแน่หากเสียเวลาไปแล้วโดนบอกล้างในภายหลัง

ป้องกันการเสียสิทธิบางอย่างที่ตัวแทนประกันอาจไม่ได้บอกคุณ

บ่อยครั้งที่เรามักเจอปัญหาบริษัทผู้รับประกันภัยปฏิเสธไม่ยอมจ่าย เมื่อครบกำหนดตามเงื่อนไขหรือผู้เอาประกันภัยได้จากไปแล้ว เพราะลืมอ่านในส่วนของข้อยกเว้นที่ผู้เอาประกันภัยสามารถปฏิเสธได้และพวกข้อยกเว้นเหล่านี้นี่เองที่ตัวแทนประกันภัยมักไม่บอกคุณ (ใครล่ะจะอยากบอกให้ลูกค้ารู้สึกว่า เงื่อนไขเยอะแยะจนไม่อยากทำประกัน จริงไหม?) แล้วก็ปล่อยให้คุณจ่ายเงินไปเรื่อยๆ กว่าจะรู้ก็สายไปซะแล้ว เพราะงั้นเพื่อป้องกันการเสียสิทธิบางอย่างที่ตัวแทนประกันอาจไม่ได้บอกคุณเลยจำเป็นที่จะต้องอ่านสัญญาให้ครบทุกตัวอักษรด้วยตัวคุณเอง (แต่ถ้าคุณเซ็นไปแล้วตามกฎหมายมักจะถือว่า คู่สัญญาที่เซ็นลงบนเอกสารได้อ่านและรับรู้ทุกข้อความบนสัญญาเรียบร้อย)

ได้เปรียบเทียบข้อตกลงในแต่ละสัญญาก่อน

บริษัทประกันภัยแต่ละแห่งจะมีกลยุทธ์ที่ออกมาแข่งใกล้เคียงกันทำให้ลูกค้ารู้สึกว่า อันนั้นก็ดีอันนี้ก็ใช่ แต่ถ้าใครได้ลองอ่านสัญญาประกันชีวิตแต่ละฉบับจะเห็นเลยว่า คำเคลมที่ดูคล้ายกันกลับมีความซับซ้อนของเงื่อนไขและความยากง่ายในการเบิกไม่เหมือนกัน (เพราะบางทีคำเคลมเวลาโฆษณาอาจบอกไม่หมด แต่บนสัญญาตามกฎหมายกำหนดต้องเขียนให้ครบ) โดยแรบบิทแคร์ขอแนะนำว่า ไม่ควรพลาดดู 3 ส่วนสำคัญ ดังนี้

  • ข้อมูลทั่วไป : ชื่อของสัญญา, วันที่เริ่มทำสัญญาประกันชีวิต อายุของสัญญา และระยะเวลาความคุ้มครอง, จำนวนเงินเอาประกันและเบี้ยประกัน ฯลฯ
  • เงื่อนไขการรับผลประโยชน์ : รายละเอียดการรับผลประโยชน์ จะรับได้ในกรณีไหนบ้าง และส่วนสำคัญที่หลายคนมักพลาดกันก็คือ ‘ข้อยกเว้น’
  • ตารางมูลค่าเงินสด : สำหรับเช็คสิทธิขยายความคุ้มครอง, เวนคืนมูลค่าเงินสด และแปลงกรมธรรม์เงินสำเร็จ

สิ่งเหล่านี้นี่ล่ะที่จะทำให้ผู้ทำสัญญาประกันสามารถนำไปเปรียบเทียบได้ง่ายขึ้นว่า ควรจะทำสัญญาประกันชีวิตฉบับไหนให้คุ้มค่าและอุ่นใจในยามเกิดเหตุไม่คาดฝันได้มากกว่ากัน

ลดความผิดพลาดจาการลงนามไปโดยไม่คาดคิด

นอกจากทั้ง 3 เหตุผลที่ได้กล่าวไปในข้างต้น อีกหนึ่งเหตุผลที่คุณควรอ่านสัญญาประกันชีวิตก่อนเซ็นสัญญาก็คือ ลดความผิดพลาดจากการลงนามไปโดยไม่คาดคิด เช่น สัญญาสมัยนี้มีชื่อเรียกแปลกๆ มากมายอาจพลาดจากสัญญาประกันชีวิตเป็นสัญญาอื่นหรือสัญญาประกันชีวิตผิดประเภทได้, เจอสัญญาปลอมจากตัวแทนปลอม เป็นต้น แม้ว่า จะดูเป็นเรื่องที่อาจเกิดขึ้นได้ยาก แต่ก็เคยเกิดขึ้นจริงมาแล้ว เพราะงั้นป้องกันด้วยการอ่านก่อนเซ็นสัญญาดีกว่าเสียหายแล้วต้องแก้ไขภายหลัง

การอ่านสัญญาประกันชีวิตก่อนเซ็นสัญญาอาจเป็นขั้นตอนที่ทำให้ผู้ทำสัญญาประกันต้องเสียเวลาไปบ้าง แต่ก็ช่วยทำให้มั่นใจได้ว่า จะไม่เกิดปัญหาในภายหลัง เกิดความรู้สึกคุ้มค่าและอุ่นใจที่ได้ถือกรมธรรม์ไว้ ไม่ต้องกังวลถึงลูกหลานผู้รับผลประโยชน์ว่า เงินที่จ่ายไปจะนำไปเบิกได้จริงหรือไม่ แต่ถ้าใครไม่อยากเสียเวลาอ่านเยอะและเลือกได้คุ้มค่าที่สุด ไม่มีปัญหาภายหลัง ขอแนะนำ RABBITCARE ค้นหาแผนประกันภัยจากบริษัทชั้นนำ พร้อมเปรียบเทียบราคาที่ดีที่สุ